
![]() | ![]() | ![]() |
---|
8
days
Leh Ladakh, India
18-25 มิถุนายน 2569 เดินทาง 14 ท่าน


Trip Highlight
Leh - Lamayuru - Nubra Valley - Pangon Lake - Hemis Mask Dance
ทริปถ่ายภาพแบบเจาะลึกกับเมืองที่เรียกว่าเป็นเมืองหลวงของช่างภาพเมืองหนึ่งของโลก เลห์ ลาดัก(Leh Ladakh) เมืองเล็กๆในอ้อมกอดของขุนเขา ทั้งเทือกเขาหิมาลัยทางตอนใต้และเทือกเขาคาราโกรัมทางตอนเหนือ เราจะพาท่านไปพบกับวิวทิวทัศน์สุดอลังการ เส้นทางลัดเลาะตามเทือกเขาอันน่าตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งวิถีชีวิตของผู้คนที่ถอดแบบวัฒนธรรมจากทิเบตจนได้สมญานามว่า "Little Tibet" ไม่พลาดที่จะเข้ารวมกับเทศกาล Hemis Tseche หรือระบำหน้ากากวัดเฮมิส อันมีชื่อเสียง
กำหนดการเดินทาง : 18-25 มิถุนายน 2568
ค่าใช้จ่าย : 34,900 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
ผู้ร่วมเดินทาง : 14 ท่าน + 2 ผู้นำทริป (ออกเดินทางขั้นต่ำ 8 ท่าน)
ชำระมัดจำ : 13,000 บาท เพื่อเป็นการยืนยันสิทธิ์ โดยทางเราจะถือลำดับการชำระมัดจำเข้ามาเป็นสำคัญ
สำหรับลูกค้าที่เดินทางท่านเดียว ทางเราจะจัดหารูมเมทให้โดยไม่จำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายสำหรับพักเดี่ยวแต่อย่างใด
สายการบินระหว่างประเทศ Air India
ขาไป
เดินทางวันที่ 18 มิถุนายน 2569
BKK-DEL-IXL เที่ยวบิน AI2303+AI2479 เวลา 22:55-06:20 น.(+1) ถึงเลห์ วันที่ 19 มิถุนายน 2569
ขากลับ
เดินทางวันที่ 25 มิถุนายน 2569
IXL-DEL-BKK เที่ยวบิน AI2453+AI2304 เวลา 09:35-20:25 น.
ข้อแตกต่างของทริปถ่ายภาพกับทริปท่องเที่ยวทั่วไป
ทริปท่องเที่ยวทั่วไปหรือที่หลายท่านชอบเรียกว่า"ชะโงกทัวร์" คือเน้นสถานที่เยอะในเวลาจำกัด ได้แค่ถ่ายภาพกับป้ายหรือแลนด์มาร์คสำคัญๆ หลายคนอาจจะเคยไปทัวร์แบบปกติแล้วไม่ค่อยมีเวลาลั่นชัตเตอร์เท่าไหร่ ทัวร์ถ่ายภาพของเราเน้นว่า "มาแล้วต้องได้ภาพกลับไป" ไม่ว่าจะเป็นภาพวิวทิวทัศน์หรือภาพตัวเองกับวิวทิวทัศน์หรือสถานที่สวยๆตลอดการเดินทาง ในแต่ละสถานที่เราอาจใช้เวลานานกว่าทัวร์ปกติทั่วๆไป ต้องมีการตื่นเช้าออกไปรอถ่ายแสงเช้า ช่วงเย็นรอพระอาทิตย์ตกเพื่อถ่ายแสงเย็นอาจทานข้าวเย็นล่าช้าไปบ้าง สิ่งเหล่านี้ทำให้เราแตกต่างออกไปจากทัวร์ปกติ การจัดการโปรแกรมก็แตกต่างกัน มีความยืดหยุ่นสูงกว่า และที่สำคัญต้องมีการทำการบ้านมาเป็นอย่างดีโดยผู้มีประสบการณ์ รู้จักสถานที่นั้นๆว่ามีอะไรที่น่าสนใจ ถ่ายภาพแบบไหนจึงจะสวย สิ่งเหล่านี้จำเป็นมากเมื่ออยู่หน้างาน รวมทั้งความสนุกๆสนานที่ได้เดินทางกับเพื่อนร่วมทริปที่สนใจในเรื่องการถ่ายภาพเหมือนๆกัน
เหมาะสำหรับ
ผู้สนใจถ่ายภาพทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มจับกล้องจนถึงระดับมืออาชีพ ทริปนี้เราจะเน้นสถานที่โดยรอบของเลห์เป็นหลัก บางเส้นทางต้องวิ่งบนสันเขาสูง เรียกว่าเป็นถนนที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ทุกคนมีโอกาสเกิดอาการ AMS หรือโรคแพ้ความสูงได้พอๆกัน แต่ทางผู้จัดและ Land Operator ชาวอินเดีย ก็เตรียมยาพร้อมคำแนะนำที่จะทำให้ปัญหานี้เกิดให้น้อยที่สุด
โรคแพ้ความสูง AMS คืออะไร ?
Altitude Sickness #1 โรคที่ต้องระวังในพื้นที่สูง > http://goo.gl/t7jOsU
Altitude Sickness #2 อาการและการป้องกัน > http://goo.gl/FlkQAA
Trip Rating
อาหารการกินถูกปาก : ปานกลาง
Fitness Level : ง่าย
ความสะดวกสบายของโรงแรมที่พัก : ปานกลาง
ความสะดวกสบายในการเดินทาง : ปานกลาง



โปรแกรมการเดินทาง
18.6.2026 / Day 1 : Bangkok - Delhi (D)
ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เดินทางด้วยสายการบิน Air India ออกเดินทางเวลา 22:55 น. มุ่งหน้าสู่เลห์ ลาดักห์ โดยจะแวะเปลี่ยนเครื่องและผ่านการตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี กรุงเดลี
19.6.2026 / Day 2 : Delhi - Leh (B-L-D)
ต่อเครื่องเพื่อเดินทางต่อโดยสายการบิน Air India เวลา 4:55 น. ถึงท่าอากาศยาน Leh Kushok Bakula Rimpochey Airport เวลา 6:20 น. หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว เข้าพักผ่อนที่โรงแรมเพื่อปรับตัวให้ชินกับสภาพความสูงกว่า 3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ช่วงบ่ายหลังจากรับประทานอาหารกลางวันจะพาท่านเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในเมืองเลห์ ได้แก่ Leh Palace และ Namgyal Tsemo Monastery ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามซึ่งมองเห็นเมืองเลห์ได้จากมุมสูง หลังจากนั้น เข้าพักที่ HOTEL ROYAL LADAKH หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืน)
20.6.2026 / Day 3 : Leh - Lamayuru - Leh (B-L-D)
หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว นำท่านเดินทางสู่ Lamayuru Monastery ทางตะวันตกของ Leh ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่ง Moonscape หรือทิวทัศน์คล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ ระยะทาง 115 km ตามเส้นทางจะผ่านสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง Magnetic hill, Confluence point of Indus and Zanskar River และ Basgo Gompa วันนี้เราเดินทางกลับเส้นทางเดิม เข้าพักที่โรงแรมเดิม
21.6.2026 / Day 4 : Leh - Nubra Valley (B-L-D)
ออกเดินทางจากเมืองเลห์สู่หุบเขานูบร้า ผ่าน Kadung La Pass ซึ่งถือว่าเป็นถนนที่สูงที่สุดในโลก สูงจากระดับน้ำทะเล 5,600 เมตร ถึงนูบร้าช่วงบ่าย แวะเที่ยวชม Diskit Monastery เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเขตหุบเขานูบร้า สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบ หลังจากนั้นเดินทางสู่ Hunder เก็บภาพอูฐบนเนินทรายสุดลูกหูลูกตา ที่ Hunder Sand Dune หากท่านใดอยากลองขี่อูฐดูสักครั้งก็สามารถทำได้ที่นี่ พักหุบเขานูบร้า เข้าพักที่ Hotel Grand Nubra หรือเทียบเท่า
22.6.2026 / Day 5 : Nubra Valley - Pangong Tso (B-L-D)
เดินทางจากหุบเขานูบร้าสู่ทะเลสาบปันกอง ซึ่งเป็นทะเลสาปน้ำเค็มที่สวยงามและตระการตา โดยพื้้นที่ 30% นั้นอยู่ในประเทศอินเดีย อีก 70% อยู่ในประเทศจีน ระยะทางประมาณ 150 km โดยผ่าน Wari La Pass โดยเส้นทางจะเลียบไปตามแม่น้ำ Shayok พบกับวิวทิวทัศน์อันสวยงาม เดินทางมาจนสุดเส้นทางที่หมู่บ้าน Maan ริมทะเลสาบปันกอง เป็นหมู่บ้านสุดท้ายที่อนุญาติให้เข้าถึงได้จากอินเดีย เข้าพักที่ริมทะเลสาบปันกอง เข้าพักที่ Pangong Wood Camp หรือเทียบเท่า
23.6.2026 / Day 6 : Pangong Tso - Leh (B-L-D)
ออกเดินทางจากจากทะเลสาบปันกองสู่เมืองเลห์ รวมระยะทาง 160km โดยเส้นทางจะผ่าน Chang La Pass ซึ่งมีความสูงเป็นอันดับสามของโลก สูงจากระดับน้ำทะเล 5,270 เมตร ระหว่างทางจะมีจุดถ่ายภาพเจ้ามาร์มอตซึ่งเป็นสัตว์ตะกูลกระรอกที่ค่อนข้างคุ้นชินกับนักท่องเที่ยว ตัวมาร์มอต มักอาศัยอยู่ในโพรงที่มันขุดขึ้นมา และจะจำศีลในช่วงหน้าหนาว เป็นสัตว์กินพืช เช่น หญ้า, ลูกไม้, ไลเคน, มอส, รากไม้ และดอกไม้ เป็นต้น ช่วงเย็นเก็บภาพยามเย็นบน Santi Stupa หลังจากนั้นเข้าพักที่เลห์ เข้าพักที่ HOTEL ROYAL LADAKH หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืน)
24.6.2026 / Day 7 : Hemis Mask Dance and Leh half day trip (B-L-D)
หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว ช่วงครึ่งวันเช้าเข้าร่วมเทศกาล Hemis Tseche หรือระบำหน้ากากวัดเฮมิสอันมีชื่อเสียง ช่วงบ่ายยังมีหลานสถานที่สำหรับในเมืองเลห์ที่จะพาท่านเยี่ยมชม อาทิ Stakna Monastery, Thiksey Monastery และ Shay Palace เป็นต้น หลังจากนั้นเข้าพักที่โรงแรมเดิม
25.6.206 / Day 8 : Leh - Delhi - Bangkok
เตรียมตัวเดินทางไปท่าอากาศยาน Leh Kushok Bakula Rimpochey Airport เดินทางด้วยสายการบิน Air India เวลา 09:35 สู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยจะแวะเปลี่ยนเครื่องที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี กรุงเดลี เดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพเวลา 20:25 น.
ยานพาหนะ
รถตู้คันใหญ่(Tempo Van) 2 คัน ตลอดการเดินทาง
โรงแรมที่พัก
ห้องพักมาตราฐานพักห้องละ 2 ท่าน
Leh และ Nubra Valley จะเป็นโรงแรมมาตราฐาน
Pangong Tso จะเป็นลักษณะของแค้มป์ซึ่งจะไม่สะดวกสบายเท่าโรงแรม
สภาพอากาศ
Leh Ladakh ช่วง Summer กลางวันค่อนข้างร้อน ถึงแม้อุณหภูมิจะประมาณ 25 องศา แต่แดดค่อนข้างแรงจำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าที่ค่อนข้างมิดชิดหน่อยครับ กลางคืนค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะที่ปันกอง อาจจะต้องเตรียมเสื้อกันหนาวมาบ้างส่วน อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 10-15 องศา
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ
เนื่องจากปัญหาเรื่อง AMS หรือการป่วยเป็นโรคแพ้ความสูงนั้นไม่สัมพันธ์กับอายุ รวมถึงความแข็งแรงของร่างกาย ทำให้ปัจจัยเหล่านี้ไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะป่วยหรือไม่ ลูกค้าอาจจะทานยา Diamox เพื่อช่วงป้องกันและควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทีมงานจะดีที่สุด / ทริปนี้รถถึงเป็นส่วนมาก เดินค่อนข้างน้อย
หมายเหตุ
- เนื่องจากเป็น Photo trip โปรแกรมการเดินทางอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ต่างๆ
- วงเล็บด้านหลังหมายถึงมื้ออาหารที่เราให้บริการ / B = อาหารเช้า / L = อาหารกลางวัน / D = อาหารเย็น
เงื่อนไขการจองและการชำระเงิน
วันที่จอง : ชำระมัดจำงวดแรก 13,000 บาท
ภายในวันที่ 15 เมษายน 2569 : ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด 21,900 บาท
การชำระเงินค่าทริป รบกวนลูกค้าติดต่อเข้ามาทาง Line ID = @wonderwander ขอบคุณครับ
**ขอสงวนสิทธิ์การจองทริปให้กับท่านที่ชำระค่ามัดจำเข้ามาแล้วเท่านั้น**
การยกเลิกทริปและเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์
การยกเลิกทริปโดยลูกค้า
หลังจากที่ผู้จัดได้คอนเฟิร์มทริปแล้ว (มีสมาชิกครบตามจำนวนที่ต้องการ)
ยกเลิกก่อนวันเดินทางมากกว่า 60 วัน หักมัดจำที่ชำระเข้ามาทั้งหมด
ยกเลิกก่อนวันเดินทางระหว่าง 15-60 วัน หัก 70% ของค่าทริปทั้งหมด
ยกเลิกก่อนวันเดินทางน้อยกว่า 15 วัน ไม่สามารถคืนเงินได้ยกเว้นเงินรีฟันด์ตั๋วเครื่องบินให้ลูกค้าตามเงื่อนไขของสายการบินนั้นๆ
หมายเหตุ : ในกรณีที่ค่าทริปรวมตั๋วเครื่องบิน ผู้จัดจะทำการคืนเงินรีฟันด์ตั๋วเครื่องบินให้ลูกค้าตามเงื่อนไขของสายการบินนั้นๆ
การยกเลิกทริปโดยผู้จัด
- ในกรณีที่ทริปต้องถูกยกเลิกการเดินทาง ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆเว้นแต่เหตุสุดวิสัย* ทางผู้จัดยินดีที่จะคืนค่าทริปที่ลูกค้าจ่ายมาทั้งหมด ยกเว้นค่าตั๋วเครื่องบินที่มีการดำเนินการซื้อไปแล้ว ในส่วนของตรงนี้คืนได้เฉพาะส่วนที่ได้รีฟันจากทางสายการบินเท่านั้น (อาจจะได้รีฟันมากบ้างน้อยบ้างตามแต่คลาสของตั๋ว ตั๋วบางคลาสอาจจะได้คืนเพียงแค่ภาษีเท่านั้น)
*ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย เช่น เกิดการก่อการร้าย เกิดความไม่สงบ เกิดการประท้วง เกิดจากภัยธรรมชาติ โรคระบาดที่ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเดินทางเข้า-ออกประเทศ หรือเหตุอื่นๆที่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย หรือหากมีการเดินทางแล้วจะก่อให้เกิดอันตรายต่อลูกค้า ผู้จัดขอสงวนสิทธิในการตัดสินใจว่าจะเลื่อนทริป หรือยกเลิกทริปโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและผลประโยชน์อันสูงสุด โดยถือว่าการตัดสินใจเป็นสิทธิเด็ดขาดของทางผู้จัด หากมีเหตุให้มีความจำเป็นต้องยกเลิกทริปกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย ทางผู้เดินทางจะได้รับเงินคืนหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ ภายในระยะเวลา 30 วันหลังจากวันที่ทำการแจ้งยกเลิก
การยกเลิกทริปเนื่องจากลูกค้ายื่นวีซ่าไม่ผ่าน
ให้ใช้เงื่อนไขเดียวกับการยกเลิกทริปโดยลูกค้า เนื่องจากการอนุมัติวีซ่านั้นเป็นเรื่องของสถานฑูตที่จะพิจารณาเป็นรายบุคคลไป ไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับผู้จัดแนะนำให้ลูกค้าหลังจากจองทริปไปแล้วควรไปขอวีซ่าแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะเมื่อเกิดปัญหาเรื่องวีซ่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ง่ายกว่าการขอวีซ่าแบบกระชั้นชิด
การเปลี่ยนแปลงตารางการบิน
หากมีการเปลี่ยนแปลงตารางการบินที่เกิดจากสายการบิน ทางผู้จัดจะพยายามปรับเปลี่ยนเที่ยวบินทดแทนให้โปรแกรมยังคงสามารถเดินทางได้เท่าที่สามารถทำได้ หากการเปลี่ยนแปลงตารางการบินโดยสายการบินกระทบกับลูกค้า ทางผู้จัดขอสงวนสิทธ์ไม่ชดเชยความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นภายหลัง
วีซ่าอินเดีย
ทางผู้จัดเป็นผู้ดำเนินการ ETA เข้าประเทศอินเดียให้กับสมาชิกทุกท่าน โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าประเทศอินเดียไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมทำ ETA ทั้งนี้ทั้งนั้นหากท่านใดได้รับการปฏิเสธ ETA ในครั้งแรก ทางเราจะพยายามยื่นเอกสารเพิ่มเติมตามที่ทางระบบตร้องขอเข้ามา หากยังไม่สามารถทำ ETA ผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้นั้น สมาชิกท่านนั้นๆจำเป็นต้องดำเนินการทำ Visa อินเดียผ่านศูนย์รับยื่นวีซ่า ตรงนี้จะมีค่าธรรมเนียมและค่าบริการทำวีซ่าท่านละประมาณ 5 พันบาท ซึ่งสมาชิกท่านนั้นๆต้องดูแลด้วยค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วยตนเอง (แต่โดยส่วนใหญ่จะผ่านตั้งแต่การทำ ETA)
ค่าใช้จ่ายนี้รวม
- ค่าโรงแรมที่พัก
- ค่าอาหารตามที่ระบุในโปรแกรม
- ค่ารถและยานพาหนะต่างๆที่ใช้เดินทาง ได้แก่ ค่าน้ำมัน,ค่าที่จอดรถและค่าทางด่วน
- ค่าจ้างผู้นำทริป รวมถึงค่าตั๋วเครื่องบิน,วีซ่า,อาหาร,ที่พักและเงินใช้จ่ายส่วนตัวระหว่างออกทริป
- ค่าจ้างไกด์ท้องถิ่น
- ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ
- ค่าประกันเดินทาง ทุนประกัน 2,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์
*ค่าใช้จ่ายนี้หมายถึงเงินรับมาเพื่อจ่ายแทนสมาชิกในรายการต่างๆตามที่ระบุข้างต้น หากมีรายการใดที่ไม่ได้ใช้จ่ายจะมีการชำระคืนให้กับสมาชิกตามจริง
ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ
- ค่า VISA อินเดีย (ในกรณีที่ถูกปฏิเสธ ETA แต่ส่วนมากจะผ่านตั้งแต่การทำ ETA)
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและพนักงานขับรถ, พนักงานบริการ รวม 50 USD ต่อท่าน
- ค่านั่งอูฐที่ Nubra Valley
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือรายการ เช่น ค่าเครื่องดื่ม มินิบาร์ ค่าโทรศัพท์ ที่ใช้ที่โรงแรม หรืออื่นๆ เช่น ค่าซักรีด เป็นต้น
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดการณ์
ตั๋วเครื่องบิน
ลูกค้าสามารถเช็คราคาตั๋วเครื่องบินได้ที่ Official website หรือจะจองผ่านเอเจนซี่ก็ได้เช่นกัน หากมีความประสงค์จะให้ทางบริษัทจัดการจองได้ก็สามารถแจ้งได้ โดยทางผู้จัดจะคิดค่าใช้จ่ายตามจริงไม่มีบวกค่าบริการใดๆ
หมายเหตุ : ก่อนจองตั๋วด้วยตัวท่านเองกรุณาสอบถามทางผู้จัดก่อน ว่าทริปนี้ได้คอนเฟิร์มการเดินทางแล้วหรือไม่
สนใจร่วมเดินทางติดต่อ
คุณนัท โทร 0837599145 / คุณต้น โทร 0805851585