โปรแกรมการเดินทาง
 

6.3.2026 / Day 1 : Bangkok - Helsinki 
พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิช่วงเที่ยง เดินทางด้วยสายการบิน Finnair ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาสุวรรณภูมิเวลา 15.00 น. โดยจะแวะเปลี่ยนเครื่องบินที่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยระยะเวลาในการรอเครื่องค่อนข้างนาน ทางเราจึงจัดเป็นการนอนพักที่โรงแรม Hilton Helsinki Airport หรือ เทียบเท่า ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ในสนามบินสามารถเดินไปได้หลังจากผ่าน ตม. และ รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว 

7.3.2026 / Day 2 : Helsinki - Reykjavik - Snæfellsnes Peninsula (B) [220 KM : 2.5 HR]

หลังรับประทานอาหารเช้าแล้ว เดินทางไปสนามบินในเวลา 05.00 เพื่อทำการบินไปประเทศไอซ์แลนด์ เครื่องออกเวลา 7.20 น. เมื่อถึงท่าอากาศยานท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก ใช้เวลาจัดการเรื่องการรับรถเช่าให้เรียบร้อย เราก็ออกเดินทางสู่ Snæfellsnes Peninsula เพื่อไปถ่ายรูปที่ภูเขารูปกรวยอันโด่งดัง Kirkjufell โดยจะแวะเที่ยวจุดที่น่าสนใจระหว่างทาง เช่น โบสถ์ดำ Búðakirkja และ Coast of Arnarstapi เป็นที่ตั้งของกลุ่มหินรูปร่างแปลกตา Londrangar / Snæfellsjokull Glacier / Lava Rock Field  จากนั้นเข้าพักที่ Stöð Guesthouse and apartments หรือเทียบเท่า (1 คืน) ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือคู่กับภูเขา Kirkjufell ได้ (อาจมีการลดทอนจุดถ่ายภาพหรือปรับแผนหากเวลาไม่พอ)

8.3.2026 / Day 3 : Snæfellsnes Peninsula - Laugarvatn [180 KM : 2.5 HR]
ตื่นมาถ่ายภาพบริเวณ​ Kirkjufell ในช่วงแสงเช้าอีกครั้งหากสภาพอากาศเป็นใจ จากนั้นเมื่อพร้อมแล้วออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้าน Laugarvatn โดยจะเป็นการแวะเที่ยวระหว่างทาง หรือ เก็บตกจุดน่าสนใจที่ไม่ได้แวะในวันก่อนหน้า เมื่อมาถึงปลายทางรอเก็บแสงช่วงเย็นที่ น้ำตก Bruarfoss จากนั้นเข้าพักที่ Hótel Laugarvatn หรือเทียบเท่า (1 คืน)  ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้เคียง

9.3.2026 / : Day 4 : Laugarvatn - Skogar (B) [140 KM : 2 HR]
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ออกเดินทางต่อโดยผ่านสถานที่น่าสนใจหลายจุด อาทิเช่น น้ำพุร้อน Geysir, Gullfoss, Seljalandfoss เดินทางมาถึงเมือง Skogar ในวันนี้เราเข้าพักที่ Hótel Skógafoss หรือเทียบเท่า ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้ๆ อย่างเช่นน้ำตก Skogarfoss ได้

10.3.2026 / Day 5 : Skogar - Jokulsarlon (Icecave Visit) (B) [230 KM : 3 HR]

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ออกเดินทางมาเก็บแสงเช้าบริเวณ Londrangar จากนั้นออกเดินทางไปยัง Icecave ในวันนี้อีกหนึ่ง highlight ของเราคือการเข้าไปเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งที่จะมีเฉพาะในฤดูหนาว ระหว่างเดือน พฤษจิกายน - มีนาคม เท่านั้น (หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ หรือ ถ้ำไม่พร้อมที่จะให้เข้าไป อาจจะไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ ทางเราจะทำการ refund เงินค่าเข้าให้กับทุกท่าน) หลังจากเข้าชม Icecave เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะเดินทางไปต่อกันที่ Jokulsarlon Glacier Lagoon อ่าวขนาดใหญ่ ที่มีก้อนน้ำแข็งจาก Glacier ลอยอยู่เต็มพื้นที่ สามารถถ่ายภาพเก็บแสงเย็นได้บริเวณนี้ ในคืนนี้เราพักกันที่ Hali Country Hotel หรือเทียบเท่า (ที่พักอยู่ห่างจาก Jokulsarlon เพียง 12 กิโลเมตร หากออกมาจากถ้ำน้ำแข็งช้าจนไม่มีแสง ทางเราจะพามาถ่ายรูปอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น) ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้ๆ อย่างเช่น Jokulsarlon ได้

11.3.2026 / Day 6 : Jokulsarlon - Hofn (B) [80 KM : 1 HR]
ช่วงเช้าออกมาเก็บตกถ่ายภาพอีกครั้งที่ Diamond Beach และ Jokulsarlon เมื่อถ่ายเสร็จแล้วเดินทางต่อไปยัง Hofn ซึ่งถือว่าเป็นเมืองปลายทางทางด้านตะวันออกในทริปนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Vestrahorn ภูเขาสุดอลังที่วางตัวทอดยาวคู่กับชายฝั่งระหว่างทางสามารถจอดถ่ายรถได้ตลอดหากมีจุดที่น่าสนใจ ในวันนี้เราเข้าพักที่ Höfn - Berjaya Iceland Hotels หรือเทียบเท่า ช่วงแสงเย็น - ดึก ออกมาเก็บภาพแสงเหนือคู่ Vesturhorn หากสภาพอากาศเป็นใจ

12.3.2026 / Day 7 : Hofn - Vik (B) [270 KM : 3.5 HR]
ช่วงเช้าหากสภาพอากาศเป็นใจเราจะออกเดินทางไปยัง Eystrahorn เพื่อถ่ายภาพในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น หลังจากนั้นเดินทางกลับที่พักเพื่อรับประทานอาหารและพักผ่อน ช่วงสายออกเดินทางย้อนไปทางเดิมซึ่งปลายทางของเราในวันนี้คือกลับไปพักที่บริเวณเมือง Vik เพื่อเก็บตกจุดถ่ายภาพที่น่าสนใจต่างๆ เช่น Lava Moss Field / Fjaðrárgljúfur ในวันนี้เราเข้าพักที่ Hotel Puffin Vik หรือ เทียบเท่า (วันนี้เป็นวันนึงที่เดินทางค่อนข้างไกล) ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้ๆ อย่างเช่น Vik Church / Vik's Beach หรือ Reynisdragar  ได้

13.3.2026 / Day 8 : Vik - Reykjavik - Blue Lagoon - Keflavik (B) [260 KM : 4.5 HR]
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ออกเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆเพื่อแวะถ่ายรูปอีกหลายจุด รวมถึง ซากเครื่องบิน DC-3 ที่จะต้องนั่งรถ shuttle bus เข้าไปเยี่ยมชม จากนั้นมุ่งหน้ากลับไปยัง Reykjavik แวะเยี่ยมชมและถ่ายภาพ landmark ต่างๆในเมืองเช่น Solfar (Sun Voyager) และโบสถ์ Hallgrímskirkja เมื่อถึงเวลาสมควรแล้ว ออกเดินทางต่อไปพักผ่อนแช่น้ำร้อนกันที่ Blue Lagoon (ค่าใช้จ่ายประมาณ 100 EURO ไม่ได้รวมในค่าทริป)  จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมือง Keflavik เพื่อเข้าที่พักที่ Konvin Hotel by Reykjavik Keflavik Airport หรือเทียบเท่า ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้เคียง

14.3.2026  / Day 9 : Keflavik - Helsinki
เตรียมตัวเดินทางไปยัง Keflavik Airport เพื่อเช็คอินและเดินทางกลับ โดยจะบินออกจากไอซ์แลนด์ในเวลา 10:00 น. แวะเปลี่ยนเครื่องที่เฮลซิงกิ และ รอเดินทางต่อปลายทางกรุงเทพฯ

15.3.2026  / Day 10 : Helsinki - Bangkok
เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทยเวลา 13:15 น. โดยสวัสดิภาพ

สภาพอากาศ
สภาพอากาศที่ Iceland เรียกว่าสุดยอดแห่งความแปรปรวนเลยก็ว่าได้ อุณหภูมิจะอยู่ในช่วง -5 ถึง 10 องศา โอกาสที่จะเจอสภาพอากาศที่แย่นั้นก็มีอยู่มาก ลมที่นั่นมีกำลังที่ค่อนข้างแรง ดังนั้นอุปกรณ์กันลมกันฝนกันหนาวต่างๆควรจะเตรียมไปให้พร้อมครับ ทางเราแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าเป็น Layer ใส่หลายๆชั้น เพื่อสะดวกต่อการถอดเป็นชิ้นๆได้ เมื่ออุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ลองจอน เสื้อฟลีซ​ เสื้อขนห่าน ปิดท้ายด้วย เสื้อกันลมกันฝน

ยานพาหนะ
สำหรับทริปนี้เราใช้เป็นรถ PEOPLE CARRIER 8-9 ที่นั่ง 2 คัน โดยที่ผู้นำทริปเป็นผู้ขับให้

โรงแรมที่พัก

Day1 : Hilton Helsinki Airport : โรงแรมมาตรฐานในสนามบิน พักห้องละ 2 ท่าน

Day2 : Stöð Guesthouse and apartments : ที่พักสไตล์เกสต์เฮาส์ห้องน้ำในตัว พักห้องละ 2 ท่าน มีครัวส่วนกลาง 

Day3 : Hótel Laugarvatn : ที่พักมาตรฐาน พักห้องละ 2 ท่าน

Day4 : Hotel Skogafoss : ที่พักมาตรฐาน พักห้องละ 2 ท่าน

Day5 : Hali Country : ที่พักมาตรฐาน พักห้องละ 2 ท่าน

Day6 : Höfn - Berjaya Iceland Hotels : ที่พักมาตรฐาน พักห้องละ 2 ท่าน

Day7 : Hótel Kría : ที่พักมาตรฐาน พักห้องละ 2 ท่าน

Day8 : Konvin Hotel by Reykjavik Keflavik Airport : ที่พักมาตรฐาน พักห้องละ 2 ท่าน

ขอความร่วมมือเรื่องสัมภาระ
เนื่องจากทริปนี้เป็น Road Trip ทางเราจะใช้รถขนาด 9 ที่นั่ง ซึ่งมีพื้นที่เก็บกระเป๋าเดินทางค่อนข้างจำกัด จึงจำเป็นต้องของความร่วมมือสมาชิกในทริปนำสัมภาระที่เป็นกระเป๋าเดินทางหลักควรมีขนาดไม่เกิน 24-26 นิ้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อที่จะมีพื้นที่เพียงพอในการเก็บสัมภาระทั้งหมดจะไม่ได้เกิดปัญหาที่เก็บสัมภาระไม่พอ และต้องนำมาวางตามที่นั่งจะทำให้เดินทางกันได้ไม่สะดวกสบาย ขอบคุณในความร่วมมือ

หมายเหตุ
- เนื่องจากเป็น Photo trip โปรแกรมการเดินทางอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ต่างๆ
- เนื่องจากการถ่ายภาพในฤดูหนาวเราจะเน้นการถ่ายภาพในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก รวมถึงช่วงเวลากลางคืนเพื่อทำการถ่ายภาพแสงเหนือ ทำให้การจัดการเรื่องเวลาสำหรับการถ่ายภาพและการพักผ่อนเป็นได้ค่อนข้างยากลำบาก ทำให้ในบางวันกำหนดการณ์การถ่ายภาพที่ถูกกำหนดไว้ในโปรแกรมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมเพื่อให้ Staff ที่ต้องขับรถด้วยนั้นมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน 
- วงเล็บด้านหลังหมายถึงมื้ออาหารที่เราให้บริการ / B = อาหารเช้า / L = อาหารกลางวัน / D = อาหารเย็น